ขบวนแห่ครัวตาน วัดปงสนุกใต้ ต.เวียงเหนือ อ.เมือง ลำปาง เอื้อเฟื้อภาพโดย คุณอนุกูล ศิริพันธุ์

Saturday, December 13, 2008

บทความจากอาจารย์ไพโรจน์ : “คึกฤทธิ์” เล่าชีวิตฝรั่ง


ภาพม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช บนยอดดอยขุนตาล
ที่มา :
http://www.tuneingarden.com/work/ph2-08.shtml


หลุยส์ ตี. เลียวโนเวนส์ (Louis Thomas Cunnis Leonowens 1856-1919) ผู้ตั้งบริษัทหลุยส์ ตี. เลียวโนเวนส์ ดำเนินธุรกิจค้าไม้ มีสำนักงานอยู่ที่นครลำปางด้วย (ปัจจุบันอยู่ในบริเวณบ้านพักออป.ลำปาง)
ที่มาภาพ : http://art-culture.chiangmai.ac.th/academic/natha/2547/12/21/
ที่มาข้อมูลหลุยส์ : http://en.wikipedia.org/wiki/Louis_T._Leonowens



อาคารสำนักงานหลุยส์ ตี. เลียวโนเวนส์ ? บริเวณบ้านพักออป.ลำปาง

“คึกฤทธิ์” เล่าชีวิตฝรั่ง
ตีพิมพ์ครั้งแรก ใน หนังสือพิมพ์ลำปางนิวส์ ฉบับที่ 193 วันที่ 7-13 กรกฎาคม 2551 หน้า 7

ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช อดีตนายกรัฐมนตรีผู้ล่วงลับได้ชื่อว่าเป็น “เขยลำปาง” ทั้งที่ท่านก็มิได้มีภริยาเป็นคนลำปางแต่อย่างใด

เหตุที่ชาวลำปางให้เกียรติแก่ท่านเป็น “คนลำปางกิตติมศักดิ์” เช่นนี้ เพราะเคยมาพำนักอยู่ที่เมืองลำปางถึง 8 ปีขณะที่เป็น ผู้จัดการบริษัทแบงก์สยามกัมมาจล ทุนจำกัด สาขาลำปาง ปัจจุบันคือ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด(มหาชน)สาขาลำปาง ซึ่งยังคงมีอาคารสำนักงานเก่าในสมัยนั้นที่งามสง่าหลงเหลือเป็นอนุสรณ์ให้เราได้ชื่นชมอยู่

คุณชายคึกฤทธิ์รู้จักเมืองลำปางและมีสายสัมพันธ์อันดีกับบุคคลสำคัญของลำปางในยุคนั้นหลายคน ท่านได้บอกเล่าเรื่องราวของเมืองลำปางในช่วงปีพ.ศ.2478-2485 เอาไว้ในหนังสืออนุสรณ์งานศพคุณทวีศักดิ์ จันทรวิโรจน์ ผมได้อ่านพบขอนำมาเล่าสู่กันฟังโดยเฉพาะเรื่องนายห้างฝรั่งทำไม้ ดังนี้

เมืองลำปางในสมัยนั้นมีป่าไม้สักที่อุดมสมบูรณ์ เป็นศูนย์การทำป่าไม้ของบริษัทต่างประเทศหรือ “ห้าง” มาตั้งสำนักงานอยู่ที่นี่ เช่น ห้างบอมเบย์เบอร์ม่า ห้างบอร์เนียว ห้างแองโกลไทย ห้างมิสหลุยหรือหลุยส์ ที. เลโอโนเวนส์ และห้างอีสต์เอเชียติคของเดนมาร์ก ทุกห้างจะมีนายห้างฝรั่งเป็นผู้จัดการและมีฝรั่งหนุ่มๆมาเป็นผู้ช่วยประมาณสี่ห้าคน มีคนไทยหรือพม่า ซึ่งได้รับโอนสัญชาติเป็นไทยมาทำหน้าที่เป็นลูกช่วงรับทำไม้

ห้างป่าไม้เหล่านี้เป็นบริษัทที่ใหญ่โต มีเงินทุน มีเครื่องมือทำไม้ ช้างและกุลีทำไม้เป็นจำนวนมาก รวมถึงมีอิทธิพลทางการเมืองสูง ห้างป่าไม้จะมีสำนักงานและบ้านพักของนายห้างและผู้ช่วย ปลูกไว้ใหญ่โตในบริเวณพื้นที่ของห้างอันกว้างใหญ่

บ้านพักของฝรั่งปลูกเป็นเรือนไม้หลังใหญ่ใต้ถุนสูง บางแห่งกั้นใต้ถุนเป็นสำนักงาน ส่วนชั้นบนเป็นที่อยู่อาศัย มีเครื่องเรือนแบบฝรั่งนั้นทำด้วยหวายหรือไม้สักอย่างดี มีภาพติดผนังที่นายห้างเอามาจากต่างประเทศ มีการตกแต่งปักแจกันดอกไม้ตามที่ต่างๆภายในบ้าน ซึ่งเป็นผีมือของเด็กรับใช้ชาวขมุ

การใช้ชีวิตของนายห้างฝรั่งจะรับประทานอาหารฝรั่งล้วน ปรุงโดยพ่อครัวชาวกำมุ หรือที่คนลำปางเรียกว่า “ขมุ” อาหารเช้าจะมีน้ำชา ไข่ดาว หมูแฮมหรือหมูเบคอนหรืออาหารอย่างอื่น เช่น เค็ดเจอรี่ ซึ่งเป็นปลาผสมกับข้าวสุก ขนมปังปิ้ง เนย แยมส้มที่เรียกว่า มาร์มะเลด มีกาแฟหรือน้ำชาใส่นมแบบอังกฤษ

ส่วนอาหารกลางวันเป็นอาหารพวกข้าวผัด มีของหวานแบบฝรั่งที่เรียกว่า พุดดิ้ง ตกบ่ายมีน้ำชา มีแซนด์วิช ขนมหวาน ผลไม้ ส่วนอาหารเย็นนั้นเต็มรูปแบบเริ่มต้นตั้งแต่ซุป ปลา เนื้อหรือไก่ กินของหวานแล้วกลับไปถึงของเค็มที่เรียกว่า เซเวอรี่ อีกครั้งหนึ่ง มีการดื่มเหล้าในช่วงบ่ายที่สโมสรหลังจากเล่นกีฬาเสร็จแล้ว

คุณชายยังเล่าอีกว่า ชีวิตครอบครัวของนายห้างฝรั่งมักจะมีภรรยามาจากต่างประเทศหรืออาจเป็นคนไทยทั้งโดยเปิดเผยหรือบิดบังไว้ ส่วนผู้ช่วยนายห้างที่เป็นฝรั่งหนุ่มมีข้อห้ามมิให้มีภรรยา แต่อันที่จริงแล้วมักมีเพื่อนนอนเป็นหญิงไทยแทบทุกคน

โดยมีวิธีการคือ เมื่อมีฝรั่งผู้ช่วยนายห้างมาจากต่างประเทศได้ประมาณ 2 วัน คนรับใช้ประจำตัวจะนำหญิงสูงอายุคนหนึ่งมาพบ โดยทำทีว่ามาขายเครื่องเงินหรือของที่ระลึก มีของเหล่านั้นใส่มาในกระจาดจริงๆ แต่ในระหว่างที่ฝรั่งนายห้างหรือผู้ช่วยนายห้างกำลังเลือกของอยู่นั้น หญิงสูงอายุจะเอาภาพผู้หญิงสาวๆสวยๆหลายคนออกมาให้นายห้างฝรั่งดู หากชอบคนไหนหญิงสูงอายุก็จะไปตกลงกับคนรับใช้ประจำตัวนายห้างอีกที

ต่อจากนั้นเมื่อนายห้างหรือผู้ช่วยฝรั่งเข้านอนก็จะมีคนไปนอนด้วย ไม่ว่านายห้างจะอยู่ในเมืองหรือออกไปนอนไพรเมื่อไปตรวจป่า พอรุ่งเช้าเมื่อนายห้างตื่นขึ้นก็จะนอนอยู่คนเดียวและด้วยเหตุผลนี้จึงถือว่า นายห้างฝรั่งเป็นคนโสด (แต่ไม่สด)

คุณชายเล่าด้วยความแปลกใจอีกว่า เมื่อมาอยู่ลำปางคืนแรก พอรุ่งเช้าโผล่หน้าต่างออกไปดูภูมิทัศน์ เห็นหญิงฝรั่งหน้าตาสวยเป็นสาวเต็มตัว แต่งกายแบบพื้นเมืองถีบจักรยาน เห็นแล้วทำให้เคลิบเคลิ้มนึกไปว่าตนอยู่ในประเทศอังกฤษได้ไต่ถามดูภายหลังทราบว่าหญิงสาวฝรั่งที่เห็นเมื่อตอนเช้านั้นเธอชื่อ “บัวก๋าย”

เท่าที่คุณชายคึกฤทธิ์เล่ามาทำให้เราทราบว่าครั้งหนึ่งลำปางบ้านเฮาก็เป็น “เมืองนานาชาติ” ดูอินเตอร์กับเขาเหมือนกันและผลจากการทำกิจกรรมอดิเรกของนายห้างฝรั่งหนุ่มข้างต้นได้ทำให้คนลำปางมีหน้าตาเป็นฝรั่งไปหลายคน !??!

ไพโรจน์ ไชยเมืองชื่น
lakorforum@yahoo.com
.............................
ผู้สื่อข่าว
on Lampang :
เปิดโลกลำปาง


เสาร์ 13

ธันวา 51

No comments: